วันพุธที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2557

รำวงมาตรฐาน

                    รำวงมาตรฐาน เป็นการแสดงที่มีวิวัฒนาการมาจาก รำโทน เป็นการรำและร้องของชาวบ้าน ซึ่งจะมีผู้รำทั้งชาย และหญิง รำกันเป็นคู่ ๆ รอบ ครกตำข้าวที่วางคว่ำไว้ หรือไม่ก็รำกันเป็นวงกลม โดยมีโทนเป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ ลักษณะการรำ และร้องเป็นไปตามความถนัด ไม่มีแบบแผนกำหนดไว้ คงเป็นการรำ และร้องง่าย ๆ มุ่งเน้นที่ความสนุกสนานรื่นเริงเป็นสำคัญ เช่น เพลงช่อมาลี เพลงยวนยาเหล เพลงหล่อจิงนะดารา เพลงตามองตา เพลงใกล้เข้าไปอีกนิด ฯลฯ ด้วยเหตุที่การรำชนิดนี้มีโทนเป็นเครื่องดนตรีประกอบจังหวะ จึงเรียกการแสดงชุดนี้ว่า รำโทน ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๗ ในสมัย จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี รับบาลตระหนักถึงความสำคัญของการละเล่นรื่นเริงประจำชาติ และเห็นว่าคนไทยนิยมเล่นรำโทนกันอย่างแพร่หลาย ถ้าปรับปรุงการเล่นรำโทนให้เป็นระเบียบทั้งเพลงร้องลีลาท่ารำ และการแต่งกาย จำทำให้การเล่นรำโทนเป็นที่น่านิยมมากยิ่งขึ้น จึงได้มอบหมายให้กรมศิลปากรปรับปรุงรำโทนเสียใหม่ให้เป็นมาตรฐาน มีการแต่งเนื้อร้อง ทำนองเพลงและนำท่ารำจากแม่บทมากำหนดเป็นท่ารำเฉพาะแต่ละเพลงอย่างเป็นแบบแผนซึ่งเพลงร้องที่แต่งขึ้นใหม่ทั้ง ๑๐ เพลง มีท่ารำที่กำหนดไว้เป็นแบบแผนคือ
      ๑. เพลงงามแสงเดือน ท่าสอดสร้อยมาลา
      ๒. เพลงชาวไทย ท่าชักแป้งผัดหน้า
      ๓. เพลงรำมาซิมารำ ท่ารำส่าย
      ๔. เพลงคืนเดือนหงาย ท่าสอดสร้อยมาลาแปลง
      ๕. เพลงดวงจันทร์วันเพ็ญ ท่าแขกเต้าเข้ารัง และท่าผาลาเพียงไหล่
      ๖. เพลงดอกไม้ของชาติ ท่ารำยั่ว
      ๗. เพลงหญิงไทยใจงาม ท่าพรหมสี่หน้า และท่ายูงฟ้อนหาง
      ๘. เพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้า ท่าช้างประสานงา และท่าจันทร์ทรงกลดแปลง
      ๙. เพลงยอดชายใจหาญ หญิงท่าชะนีร่ายไม้ ชายท่าจ่อเพลิงกัลป์
      ๑๐.เพลงบูชานักรบ หญิงท่าขัดจางนาง และท่าล่อแก้ว ชายท่าจันทร์ทรงกลดต่ำ 
และท่าขอแก้ว

ดนตรี และเพลงที่ใช้ประกอบการแสดง     
  ใช้วงปี่พาทย์ไม้นวม 
       เพลงที่ใช้ประกอบการแสดงได้แก่ เพลงงามแสงเดือน เพลงชาวไทย เพลงรำซิมารำ เพลงคืนเดือนหงาย เพลงดวงจันทร์วันเพ็ญ เพลงดอกไม้ของชาติ เพลงหญิงไทยใจงาม เพลงดวงจันทร์ขวัญฟ้า เพลงยอดชายใจหาญ และเพลงบูชานักรบ

เครื่องแต่งกายของรำวงมาตรฐาน ประกอบด้วย ๔ แบบ ดังนี้

 แบบที่ ๑ แบชาวบ้าน
ชาย   นุ่งผ้าโจงกระเบน สวมเสื้อคดพวงมาลัย  เอวคาดผ้าห้อยชายด้านหน้า
หญิง  นุ่งโจงกระเบน ห่มผ้าสไบดันจีบ ปล่อยผม ประดับดอกไม้ที่ผมด้านซ้าย คาดเข็มขัด ใส่เครื่องประดับ

 แบบที่ ๒ แบบราชกาลที่ ๕
ชาย  นุ่งผ้าโจงกระเบน สวมเสื้อคด ราชปะแตน ใส่ถุงเท้า รองเท้า
หญิง นุ่งผ้าโจงกระเบน สวมเสื้อลูกไม้ สไบพาดบ่าผูกเป็นโบว์ ทิ้งชายไว้ข้างลำตัวด้านซ้าย ใส่เครื่องประดับมุก

 แบบที่ ๓ แบบสากลนิยม
ชาย  นุ่งกางเกง สวมสูท ผูกไท้
หญิง นุ่งกระโบรงป้ายข้าง ยาวกรอมเท้า ใส่เสื้อคอกลม แขนกระบอก

 แบบที๔  แบราตรีสโมสร
ชาย   นุ่งกางเกง สวมเสื้อพระราชทาน ผ้าคาดห้อยจากด้านหน้า
หญิง  นุ่งกระโปรงยาวจีบหน้านาง ใส่เสื้อจับเดรป ชายผ้าห้อยจากบ่าลงไป ทางด้านหลัง เปิดไหล่ขวา ศีรษะทำผมเกล้าเป็นมวยสูง ใส่เกียว และ เครื่องประดับ

เพลงที่ 1 งามแสงเดือน
   ท่าสอดสร้อยมาลา

เพลงที่ 2 ชาวไทย
   ท่าชักแป้งผัดหน้า

เพลงที่ 3 รำมาซิมารำ
    ท่ารำส่าย

เพลงที่ 4 คืนเดือนหงาย
    ท่าสอดสร้อยมาลาแปลง

เพลงที่่ 5 ดวงจันทร์วันเพ็ญ
    ท่าแขกเต้าเข้ารัง ท่าผาลาเพียงไหล่

เพลงที่ 6 ดอกไม้ของชาติ
     ท่ารำยั่ว

เพลงที่ 7 หญิงไทยใจงาม
    ท่าพรหมสี่หน้า ท่ายูงฟ้อนหาง

เพลงที่ 8 ดวงจันทร์ขวัญฟ้า
     ท่าช้างประสานงา ท่าจันทร์ทรงกลดแปลง

เพลงที่ 9 ยอดชายใจหาญ
        หญิงท่าชะนีร่ายไม้ ชายท่าจ่อเพลิงกัลป์

เพลงที่ 10 บูชานักรบ
      หญิงท่าขัดจางนงและท่าล่อแก้ว ชายท่าจันทร์ทรงกลดต่ำและท่าขอแก้ว